การสร้าง CapturePage ด้วย Google Documents

Capture Page เครื่องมือสำคัญ ที่นักธุรกิจเครือข่ายจำเป็นต้องใช้

อย่างที่นักธุรกิจเครือข่ายทั้งหลายรู้และเข้าใจเป็นอย่างดีว่า 

การสร้่างรายชื่อผู้มุ่งหวังของคุณเองนั้น เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่เราต้องทำ 

ดังนั้นในวันนี้ผมมีเครื่องมือ สำคัญ ที่นักธุรกิจเครือข่ายออนไลน์จำเป็นต้องใช้

อย่าง “หน้าดักจับรายชื่อผู้มุ่งหวัง (Capture Page)” มาแบ่งปันครับ

หน้าดักจับรายชื่อผู้มุ่งหวัง (Capture Page) คือ

หน้าเว็บเพจ (web page) หนึ่งหน้าที่อาจจะมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป

อย่าง landing page, lead capture page หรือ squeeze page ทำหน้าที่เก็บข้อมูล

อย่างเช่น ชื่อ อีเมล์ เบอร์โทรศัพท์ ของผู้มุ่งหวัง เพื่อที่คุณจะได้ติดต่อกลับไปหาผู้มุ่งหวัง

ผ่านระบบอีเมล์ตอบกลับอัตโนมัติ (Email Autoresponder)

การโทรเพื่อนำเสนอข้อมูล (Telemarketing) 

หรือการทักแชททักทายและให้ข้อมูลก็ได้

องค์ประกอบสำคัญที่คุณต้องคำนึงถึงอย่างมาก

ในการสร้าง “หน้าดักจับรายชื่อผู้มุ่งหวัง (Capture Page)”อย่างมีประสิทธิภาพ

1. โครงสร้างของ หน้่า Capture Page (Capture Page layout) | แคปเจอร์เพจที่ดีนั้น

ต้องประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญ อย่างเช่น คำพาดหัว (Headline) , ข้อมูลที่คุณนำเสนอ (Text Body)

และช่องกรอกข้อมูล (webform) นั้นต้องจัดวางในตำแหน่งที่ผู้อ่านได้ง่ายๆ 

โดยที่ไม่ต้องเลื่อนหน้าเว็บลงมาเพื่ออ่านให้จบ ต้องไม่มีลิงค์ออกจากหน้า (Exit Hyperlink) 

ใดๆก็ตามในแคปเจอร์เพจ และที่สำคัญไม่ควรใช้ สีที่ฉูดฉาด 

ทำให้อ่านยากจนดูน่ารำคาญมากกว่าดึงดูดใจ

2. เทคนิคในการเขียนคำโฆษณา (Copywriting Techniques)

โดยส่วนมากแล้วเรามักจะเข้าใจว่า คำโฆษณาที่ใช้กับแคปเจอร์เพจที่ดีนั้น

ต้องยาว ต้องอัดแน่นไปด้วยข้อมูลที่ชักจูงใจให้ผู้มุ่งหวังตัดสินใจกรอกข้อมูล 

จนหลายครั้งผู้อ่านเกิดอาการขี้เกียจอ่าน แล้วจากคุณไป

ดังนั้นรูปแบบของข้อความที่ใช้นั้นต้องตรงประเด็น ใช้คำที่อ่านแล้วเข้าใจได้่ง่าย

มีการใช้การเน้นสี ทำตัวหนา หรือ ขีดเส้นใต้ที่คีย์เวิร์ด ที่กระจายอยู่ทั่วไปบน Capture Page 

มีการใส่บุลเล็ต (bullets) กับประโยชน์ที่จะได้รับหลังจากกรอกข้อมูล 

หรือ มีการใส่คำนิยาม (Testimonials) มีการใส่ เครื่องหมายกระตุ้น

ให้ผู้มุ่งหวังลงมือทำ (Call to Action)

3. คีย์เวิร์ด ที่ใช้ในการทำ SEO (Keyword, SEO) คีย์เวิร์ดที่ใช้ต้องเฉพาะเจาะจง 

และสัมพันธ์กับสิ่งที่คุณนำเสนอ…. ซึ่งสอดคล้องกับกลไกของเสิร์ชเอนจินต้องการมากที่สุด 

เพื่อให้ผู้มุ่งหวังค้นเจอ Capture Page ของคุณผ่านเสิร์ชเอนจิน

Google Documents คืออะไร 

Google Documents หรือที่เรียกสั้นๆว่า Google Docs เป็นบริการออนไลน์

ที่ให้เราสามารถจัดการเอกสารได้แบบไม่มีค่าใช้จ่าย เพียงแค่เรามีอีเมลล์ของ Gmail

และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างการใช้งาน เพียงเท่านี้เราก็สามารถสร้าง แก้ไข 

เผยแพร่เอกสารได้โดยไม่จําเป็นต้องมีการติดตั้งโปรแกรม

งานเอกสาร เช่น MS Office หรือ OpenOffice ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์เลย

และที่สำคัญเป็นบริการออนไลน์ที่ไม่คิดค่าใช้จ่าย เช่นเดียวกับ บล็อก

การสร้าง FORM กรอกข้อมูล สิ่งที่ท่านต้องมี ก็คือ Email Address ของ Gmail ครับ

เริ่มกันเลยนะครับ

1. LOG IN เข้าไปในบัญชี GMAIL ของท่าน

2. พอเข้ามาแล้วก็ให้เข้าไปที่หัวข้อ เอกสาร หรือ DOCUMENT

3. เลือก CREATE NEW => SPREADSHEET

4. เลือกที่ FORM => CREATE A FORM

5. จะปรากฏ FORM ขึ้นมาดังภาพ จากก็กรอกข้อมูลรายละเอียดที่ท่านต้องการ

A. ส่วน QUESTION TITLE คือ

คำถามหรือหัวข้อที่ท่านต้องการให้ผู้สนใจกรอกข้อมูลลงไป เช่น ชื่อ-สกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ ความสนใจ ความถนัด ฯลฯ

B. ส่วน HELP TEXT คือ

คำอธิบายว่าหัวข้อหรือคำถามนั้นๆท่านต้องการให้ผู้สนใจทำอะไร อย่างเช่น หัวข้อแรกที่ท่านตั้งไว้ เป็นชื่อ-สกุล คำอธิบายก็อาจจะบอกว่า “กรอกชื่อและนามสกุลของท่านลงข้างล่างนี้” เป็นต้น

C. ส่วน QUESTION TYPE คือ

รูปแบบของข้อมูลที่ท่านต้องการให้ผู้ที่สนใจกรอก มีหลายรูปแบบให้เลือก ดังนี้

Þ Text คือ ข้อมูลสั้นๆ ที่ต้องการให้กรอกเช่น ชื่อ-สกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ เป็นต้น

Þ Paragraph Text คือ ข้อมูลที่ยาวขึ้นมาอีกไว้สำหรับกรอก ที่อยู่ ความสนใจ ความต้องการ เป็นต้น

Þ Multiple Choice คือ คำถามหรือหัวข้อที่ต้องการให้เลือก เช่น ชอบทำอะไร ถนัดอะไร ฐานเงินเดือนเท่าไหร่ ฯลฯ

Þ Checkboxes คือ คำถามหรือหัวข้อที่ต้องการให้เลือกเช่นกัน

Þ Choose from a list คือ มีคำตอบให้เลือกอยู่แล้วใน List ที่เราลงข้อมูลไว้เพื่อความสะดวกกับผู้ที่ให้ข้อมูลไม่ต้องพิมพ์เอง เช่น โรคประจำตัว เพศ เป็นต้น

Þ Scale คือ ข้อมูลที่ต้องการให้ผู้กรอกให้คะแนนหรือระดับความสำคัญ เช่น การเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เป็นต้น

Þ Grid คล้ายๆกับ Scale ครับ

การที่ท่านเลือกรูปแบบของข้อมูลแบบไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับคำถามหรือหัวข้อที่ท่านต้องการให้ผู้สนใจกรอกนั่นเอง ก็ลองๆเลือกดูนะครับ

รูปแบบของ FORM กรอกข้อมูลที่เสร็จแล้ว

6. หลังจากที่สร้าง FORM กรอกข้อมูลเสร็จแล้วดูเหมือนว่ามันจะยัง ไม่สวยงามสักเท่าไหร่ เราจะมาเปลี่ยนพื้นหลัง (THEME) ให้กับ FORM กัน

เลือก THEME: RUNNER

7. เลือก THEME ที่ต้องการ

8. กด APPLY

เพียงแค่นี้ท่านก็จะได้ Form สำหรับให้ผู้ที่สนใจกรอกข้อมูลให้ท่านแล้วครับ

การนำ FORM ที่สร้างจาก GOOGLE SPREADSHEETS ไปใช้งาน

การนำ Form ไปใช้งานก็ไม่ยากอะไรครับ สิ่งที่ท่านต้องมี ก็คือ Website หรือ Blog สำหรับวาง Code ให้ผู้ที่สนใจกรอกข้อมูลให้ท่านครับ ผมไม่แนะนำ Spam Mail หรือ Tag รูปภาพใน Facebook ครับเพราะมันทำให้คนอื่นเดือดร้อน อีกอย่างเป็นการสร้างความไม่น่าเชื่อถือให้ตัวท่านเองด้วย

1. หลังจากที่ LOG IN เข้ามา ใน GMAIL แล้วเลือก เอกสาร หรื DOCUMENT ก็จะปรากฏหน้าต่างดังรูป ให้เลือก FORM ที่ท่านได้สร้างไว้

2. เลือกที่ FORM => เลือก EMBED FORM IN A WEBPAGE

3. COPY CODE

ตัวอย่าง Code

4. นำไปวางใน เว็บในส่วนสำหรับวาง HTML CODE

5. เท่านี้ก็จะได้ FORM ที่สร้างจาก GOOGLE SPREADSHEETS เรียบร้อยแล้วครับ

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์กับนักธุรกิจออนไลน์หรือผู้ที่สนใจทุกท่านไม่มากก็น้อยครับ